การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความจากวรรณคดี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างกลุ่มที่โดยใช้เกมและกลุ่มที่สอนแบบปกติ
Comparison the ability in comprehensive reading literature of 1st year junior high school students by teaching method between using game and normal teaching
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างวิธีสอนที่ใช้เกมกับวิธีสอนแบบปกติ 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนที่ได้รับการสอนโดยการใช้เกม 3. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนที่ได้รับการสอนโดยวิธีสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวน 80 คน โดยคัดเลือกจากการนำคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ทั้ง 4 ห้อง มาหาค่าเฉลี่ยของแต่ละห้อง โดยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA) แล้วเลือกคู่ของค่าเฉลี่ยที่ไม่แตกต่างกันมา 1 คู่ ใช้วิธีการสุ่มโดยการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ได้ แก่ 1.แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความวรรณคดีโดยใช้เกม 5 แผน และแผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความวรรณคดีโดยรูปแบบปกติ 5 แผน 2. แบบวัดความสามารถการอ่านจับใจความวรรณคดี โดยผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าเฉลี่ย () ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และการทดสอบค่าที (t test) แบบ Dependent และ Independent
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
- ความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีของกลุ่มที่สอนโดยใช้เกม มีคะแนนค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มที่สอนโดยแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีของกลุ่มที่สอนโดยใช้เกม มีคะแนนค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงขึ้นกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดี ของกลุ่มที่สอบโดยแบบปกติ มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
จากผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การสอนโดยใช้เกมในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย สามารถพัฒนาความสามารถในการอ่านจับใจความวรรณคดีให้สูงขึ้นได้
Abstract
The objectives of the research were 1) to compare the ability in comprehensive reading literature of 1st year junior high school students by teaching method between using game and normal teaching, 2) to compare the ability in comprehensive reading the literature of 1st year junior high school students both before and after class given using game of teaching method, and 3) to compare the ability in comprehensive reading the literature of 1st year junior high school students both before and after class given normal teaching method. The population of this research were 2 classes of 80 students in 1st year junior high school, 1st semester, academic year 2015 at Mathayom Wat Makutkasat School, Bang Khun Prom, Phra Nakhon, Bangkok. The researcher took Thai language achievement scores of all 4 classes into the average of each class by using one-way analysis of variance (one-way ANOVA), choosing one pair of same average and random by drawing lots. The research tools were 1) 5 learning management plans of comprehensive reading by using game and 5 learning management plans of comprehensive reading by normal teaching method, 2) ability measure’s forms of comprehensive reading through verification by experts about Index of Item Objective Congruence (IOC), and the data was analyzed into Arithmetic Mean, standard deviation (S.D.), and T-test both Dependent and Independent.
The findings of this research were as follows:
- The after class’s average of ability in comprehensive reading the literature of the group taught by using game was higher than groups taught by normal teaching method with statistical significance value at 0.5.
- The after class’s average of ability in comprehensive reading the literature of the group taught by using game was higher than before class’s average with statistical significance value at 0.5
- The after class’s average of ability in comprehensive reading the literature of the group taught by normal teaching method was higher than before class’s average with statistical significance value at 0.5
ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย