การประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด

  • พระอำนาจ ภทฺทวโร(โคมร้าย) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด

Abstract

           การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ทั้งเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพี่อศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรที่มีต่อการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ของบุคลากรที่มี เพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน และ 3) เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะของบุคลากรเกี่ยวกับการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งสี่แห่ง จำนวน 217 คน การกำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรการคำนวณของทาโร ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 141 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า ห้าระดับโดยมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability)  ทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติอนุมานหรืออ้างอิง ได้แก่ การทดสอบค่าที (t-test) การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth interview) สัมภาษณ์ผู้รู้หรือผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informant Interview) โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง (Purposive Selection) คือ ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งสี่แห่ง


            ผลการวิจัยพบว่า 1) ความคิดเห็นของบุคลากรที่มีต่อการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากทั้งสี่ด้าน เรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการบริหารงานองค์กร ด้านการบริหารงานบุคลากร ด้านการบริหารงานบริการสาธารณะ และด้านการบริหารงานงบประมาณ ตามลำดับ 2) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ความบุคลากรที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม และรายด้าน ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ และ 3) ข้อเสนอแนะของบุคลากรเกี่ยวกับการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ลำดับตามความถี่สูงไปหาต่ำ สามอันดับแรก ได้แก่ ควรบริหารงานงบประมาณซื่อตรง ซื่อสัตย์ สุจริต ถูกต้อง เที่ยงธรรม โปร่งใส ไร้อคติ เป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ มากยิ่งขึ้น ควรคุ้มครอง ป้องกัน ให้ความยุติธรรม เป็นธรรม เป็นกลาง โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มากยิ่งขึ้น และควรบริหารงานในองค์กรด้วยความซื่อตรง  ชื่อสัตย์ สุจริต  ถูกต้อง โปร่งใส ไร้อคติ เที่ยงธรรม เป็นกลาง และไม่เลือกปฏิบัติ มากยิ่งขึ้น

Published
2018-12-31
How to Cite
ภทฺทวโร(โคมร้าย), พระอำนาจ. การประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารพุทธปรัชญาวิวัฒน์, [S.l.], v. 2, n. 3, p. 1-13, dec. 2018. ISSN 2730-2644. Available at: <http://ojs.mbu.ac.th/index.php/jbpe/article/view/874>. Date accessed: 15 may 2024.
Section
Research Article