แนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนของผู้สูงอายุ
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาและความต้องการในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนของผู้สูงอายุ 2) เสนอแนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกิจกรรมในการศึกษานอกระบบโรงเรียนของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 410 คน 2) ครอบครัวผู้สูงอายุ จำนวน 410 ครอบครัว และ 3) บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 257 องค์กร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยสำหรับการสำรวจปัญหาและความต้องการ ได้แก่ แบบสอบถามจำนวน 3 ชุด และเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยที่ใช้ในการจัดเวทีสาธารณะ ได้แก่ ร่างแนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียน พื้นที่ตัวอย่างสำหรับการจัดเวทีสาธารณะ 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดระยอง สงขลา ตาก และอุบลราชธานี การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนความคิดเห็นใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนของผู้สูงอายุที่เป็นปัญหาที่สุด คือ การไม่มีการรายงานข้อมูล เช่น เรื่องค่าใช้จ่ายในการจัด ผลของการจัดกิจกรรมให้รู้หลังจัดกิจกรรมความคิดเห็นสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 44.1 ส่วนด้านความต้องการผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนในเรื่อง การร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนที่ทำให้มีทักษะในการมีส่วนร่วมในสังคม เช่น กิจกรรมเกี่ยวกับการเสริมสร้างคุณค่าในชีวิต งานอดิเรกต่าง ๆ ทักษะเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ต่อผู้อื่น และต้องการให้มีการร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผลและปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียน โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 79.5 และมีแนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนสำหรับผู้สูงอายุ โดยมุ่งกลุ่มผู้สูงอายุ ครอบครัวผู้สูงอายุ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 32 ข้อ
ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย