การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชน บ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น
Abstract
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชนบ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น 2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชนบ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น โดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรประชาชนบ้านหัวนาหม่อ จำนวน 317 คน นำมาวิเคราะห์ประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลวิจัยพบว่า
- 1. ผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 317 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 57.10 เพศหญิง ร้อยละ 42.90 มีอายุ 51 ปีขึ้นไป ร้อยละ 66 อายุ 21 - 30 ปี ร้อยละ 22.40 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 22.08 อายุ 31 – 40 ปี ร้อยละ 19.24 และอายุ 41 – 50 ปี ร้อยละ 12.62 มีระดับการศึกษา ประถมศึกษา ร้อยละ 35.02 มัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 21.77 มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ร้อยละ 21.14 อนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 15.14 และปริญญาตรีขึ้นไป ร้อยละ 6.94 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 40.38 นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 33.12 รับจ้าง ร้อยละ 12.30 อาชีพอื่น ๆ ร้อยละ 7.89 รับราชการ ร้อยละ 5.68 และรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 0.63
- การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชนบ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.25) เมื่อพิจารณาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชนบ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ในแต่ละด้านพบว่า 1) ด้านฉันทะ (ความพอใจ) อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ด้านวิริยะ (ความเพียร) อยู่ในระดับมากที่สุด 3) ด้านจิตตะ (การเอาใจใส่) อยู่ในระดับมากที่สุด 4) ด้านวิมังสา (การพิจารณาใคร่ครวญ) อยู่ในระดับมากที่สุด
- ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ของประชาชนต่อการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิตของประชาชนบ้านหัวนาหม่อ ตำบลกุดธาตุ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ดังนี้ 1) ด้านฉันทะ (ความพอใจ) มีความพอใจในการงานทั้งหลาย พัฒนาตนเองและสังคม ปลูกฝังความรัก รักในสิ่งที่ทำ เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ร้อยละ 1.89 2) ด้านวิริยะ (ความเพียร) มีความเพียรพยายามในการทำงานต่าง ๆ สร้างหน้าที่การงาน มีความขยัน ตั้งใจ ทำให้สำเร็จลุลวง มุ่งมานะในการทำงาน ร้อยละ 1.89 3) ด้านจิตตะ (การเอาใจใส่) มีการหมั่นเอาใจใส่ไม่เหลาะแหละตรวจเช็คเสมอในการทำงาน ร้อยละ 1.89 4) ด้านวิมังสา (การพิจารณาใคร่ครวญ) การใคร่ครวญความถูกความผิด ทบทวนเป้าหมาย มีการไตร่ตรองที่ดีในการทำงาน ร้อยละ 1.89
คำสำคัญ: การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4, การดำเนินชีวิตของประชาชน
1. ผลงานที่ส่งตีพิมพ์จะต้องไม่เคยเผยแพร่ในสิ่งตีพิมพ์อื่นใดมาก่อนและต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง
2. ต้นฉบับที่ส่งตีพิมพ์ต้องเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเท่านั้น
3. ต้นฉบับต้องผ่านการกลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิและได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการ
4. ในกรณีที่เป็นบทความแปล ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยการขออนุญาตให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมสากล
5. ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ และตาราง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร กองจัดการ และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน
6. ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร