ความเข้าใจของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยในชุมชนบ้านศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

  • วุฒิชัย มัธยัสถ์สิน

Abstract

บทคัดย่อ


            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 2) เพื่อศึกษาความรู้ที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย    3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับความรู้ที่มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 4) เพื่อให้ทราบถึงข้อเสนอแนะแนวทางของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยในชุมชนบ้านศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย


            การวิจัยในครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย จำนวน 304 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามปลายปิดและปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าแจกแจงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าไค-สแควร์ (Chi-Square Test) ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการแปลผล


            ผลการวิจัยพบว่า


            1) ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 57.24 ส่วนใหญ่อายุ 46 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 31.90 ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 27.30 และส่วนใหญ่มีรายได้ระหว่าง 5,001-10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 30.92


            2) ประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยรวม มีความรู้ที่มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในระดับมาก จำนวน 226 คน คิดเป็นร้อยละ 74.80 รองลงมาความรู้ระดับปานกลาง จำนวน 57 คน คิดเป็นร้อยละ 19.40 และความรู้น้อย จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 8.80


            3) เพศ อายุ อาชีพ และรายได้ต่อเดือน กับความรู้ที่มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีความสัมพันธ์กันที่ระดับนัยสำคัญ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้


          4) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ที่มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในชุมชนบ้านศรีสงคราม เทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 1. ด้านรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย มีข้อเสนอแนะ อันดับแรก คือ ควรยึดถือเอาความคิดเห็นส่วนใหญ่มาเป็นหลักแต่ไม่ทิ้งความคิดเห็นส่วนน้อยมาเป็นประกอบในการตัดสินใจ 2. ด้านอุดมการณ์ประชาธิปไตย มีข้อเสนอแนะ อันดับแรก คือ ควรมีความเชื่อมั่นให้ความสำคัญเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของบุคคล   3 ด้านวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย มีข้อเสนอแนะ อันดับแรก คือ ควรรู้จักประนีประนอมรู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่เอาแต่ความคิดเห็นของตนเป็นสำคัญมีช่องทางใดที่จะประสานความคิดของตนให้สอดคล้องหรืออะลุ่มอล่วยกับทรรศนะของผู้อื่นได้ย่อมทำเพื่อป้องกันความรุนแรง ไม่ยึดมั่นในความคิดของตนอย่างไม่ยอมแก้ไขและต้องใช้เหตุผลให้มากที่สุดยอมรับการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งโดยสันติวิธี


          The Objectives of this research were as follows: 1) To study the individual factors of the people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province; 2) To study understanding in democracy administration of the people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province; 3) To study a relationship between the individual factors and understanding in democracy administration of the people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province; 4)To know the suggestions, solutions and guidelines in democracy administration of the people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province.


            The results of research were found as follws:


            1) People surveyed most were female accounted for 57.24 percent, mainly aged over 46 years accounted for 31.90 percent ,most were farmers accounted for 27.30 percent and most revenues of between 5,001-10,000 Baht accounted for 30.92 percent.


            2) The people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province had knowledge toward democracy at a high level of 226 person accounted for 74.80 percent, followed by knowledge levels were 57 person accounted for 19.40 and little knowledge of 26 person accounted for 8.80 percent.


            3) Gender, age, occupation and monthly income. With knowledge towards democracy. The relationship between the level of significance. 05, which according to the hypothesis.


          4) Suggestions on how to improve their knowledge toward democracy of The people in Bansrisongkram Community Srisongkram Councils Wangsaphung Disttrict Loei Province; 1) Style democracies had suggested should be taken on a first come primarily but not the majority opinion left little to be engaged in the decision; 2) Democratic ideals were suggested on a first come should have the confidence to focus on the value of the human person; 3)The democratic way of life have suggested a compromise should know was first introduced to the idea of ​​another. Not only their opinion was a critical channel to engage their ideas conform or compromise with the views of others would do to prevent violence. Not adhering to their ideas inexorably resolved and require reasons to accept most of resolving conflicts by peaceful means.

References

ชโลธรา อโนมาส. (2555). วัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตยของนักศึกษาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยวิทยาเขตอีสาน. ปริญญานิพนธ์ศาสนศาสตร มหาบัณฑิต. สาขารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
ภูษิตา งามสะอาด. (2555). ความรู้ความเข้าใจเรื่องการปกครองระบบประชาธิปไตยของนักเรียนโรงเรียนมัธยมหนองเขียด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น. ปริญญานิพนธ์ศาสนศาสตร มหาบัณฑิต. สาขารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
พระพิทยากรณ์ ปณฺญาธโร (จันทะมัน). (2556). ความรู้ที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในชุมชนบ้านโนนชัย อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. ปริญญานิพนธ์ศาสนศาสตร มหาบัณฑิต. สาขารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
รุจิเรข รักวงษ์. (2540). บทบาทของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อการเรียนรู้ทางการเมือง: กรณีศึกษาประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียใหม่. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาการเมืองและการปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Published
2017-12-31
How to Cite
มัธยัสถ์สิน, วุฒิชัย. ความเข้าใจของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยในชุมชนบ้านศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์, [S.l.], v. 3, n. 2, p. 129-143, dec. 2017. ISSN 2350-9406. Available at: <http://ojs.mbu.ac.th/index.php/jslc/article/view/1319>. Date accessed: 29 apr. 2024.