การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ ตามรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง ข้อมูลและการประมวลผล สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

DEVELOPMENT OF ONLINE LESSONS BASED ON THE INQUIRY-BASED LEARNING MODEL (5Es) ON DATA AND PROCESSING FOR GRADE 7 STUDENTS

Abstract

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ ตามรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง ข้อมูลและการประมวลผล สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ศึกษาความเหมาะสมของบทเรียนออนไลน์ 3) ศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์ 4) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์ และ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อบทเรียนออนไลน์กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 30 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยวิธีจับสลากหน่วยเลือกเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บทเรียนออนไลน์ที่พัฒนาขึ้น แบบประเมินความเหมาะสมของบทเรียนออนไลน์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบประเมินชิ้นงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และดัชนีประสิทธิผล

ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นมีส่วนประกอบ 2 ส่วนคือ ส่วนผู้ดูแลระบบ และส่วนของผู้เรียน 2) ความเหมาะสมของบทเรียนออนไลน์ที่พัฒนาขึ้น โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3) ประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์ มีค่าเท่ากับ 80.67/ 80.00 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80) 4) ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์มีค่าเท่ากับ 0.55 หรือร้อยละ 55 โดยรวมอยู่ในระดับความก้าวหน้าในการเรียนปานกลาง และ 5) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนออนไลน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

The objectives of this research were: 1) to develop an online lesson based on the inquiry-based learning model (5Es) on the topic of data and processing for Grade 7 students, 2) to study the appropriateness of the online lesson, 3) to examine the efficiency of the online lesson, 4) to investigate the effectiveness index of the online lesson and 5) to assess students' satisfaction with the online lesson. The sample group consisted of 30 Grade 7 students from Class 1/1 at Mueang Somdet School, Somdet District, Kalasin Province, selected using cluster random sampling. The research instruments included the developed online lesson, an appropriateness evaluation form, an achievement test, a satisfaction questionnaire, and a task evaluation form. Data were analyzed using percentage, mean, standard deviation, efficiency, and effectiveness index.

The research findings revealed that: 1) the developed online lesson consisted of two components: the administrator section and the student section. 2) The overall appropriateness of the online lesson was at a high level. 3) The efficiency of the online lesson was 80.67/80.00, meeting the set standard of 80/80. 4) The effectiveness index of the online lesson was 0.55 or 55%, Indicating a moderate level of learning progress and 5) students' overall satisfaction with the online lesson was at the highest level.