การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สำหรับโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด

DEVELOPMENT OF INTERNAL SUPERVISION MODEL USING PROFESSIONAL LEARNING COMMUNITY FOR ROI ET PRIVATE SCHOOLS

  • สุทัศน์ สังคะพันธ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง พัฒนา ศึกษา และประเมินผลรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด  โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา การดำเนินการวิจัย 4 ระยะคือ ระยะที่ 1  ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ในการนิเทศภายในของผู้บริหาร ครูในโรงเรียนเอกชน ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ  ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ระยะที่ 4 ประเมินรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ กลุ่มเป้าหมายในระยะที่ 1 เป็นผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนในโรงเรียนเอกชน จำนวน 207 คน ระยะที่ 2 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบและรับรองรูปแบบ จำนวน 12 คน ระยะที่ 3 ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนในโรงเรียนเอกชน จำนวน 207 คน และระยะที่ 4 ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 36 คน โดยการสอบถามและการสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การประชุมระดมความคิด แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจ แบบประเมินการปฏิบัติงาน และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน PNI และสถิติทดสอบที (Paired t-test)


ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบัน โรงเรียนส่วนใหญ่ยังขาดระบบนิเทศภายในที่ชัดเจน และผู้นิเทศยังขาดความรู้และไม่ได้รับการยอมรับ สภาพที่พึงประสงค์ คือ ผู้บริหารและครูต้องการรูปแบบนิเทศที่ชัดเจนและเกิดจากความร่วมมือ 2) รูปแบบการนิเทศภายใน ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบด้วย (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3)กระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน (AISER Model: Analyzing, Informing, Supervising, Evaluating, Reporting) ซึ่งมีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 6 องค์ประกอบ (4) การประเมินรูปแบบ (5) เงื่อนไขความสำเร็จ รูปแบบที่พัฒนาขึ้นได้รับการประเมินว่ามีความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีในระดับมากที่สุด 3) ผลการทดลองใช้แสดงให้เห็นว่ารูปแบบมีประสิทธิภาพ (E1/E2 = 89.23/84.60) ผู้เข้าร่วมมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การจัดการเรียนรู้จริงอยู่ในระดับมากที่สุด การนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม และผู้บริหาร ครู รวมถึงผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด 4) ผลการประเมินรูปแบบโดยรวมมีความถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด


The purposes of this research were to create, develop, study, and evaluate the internal supervision model using professional learning community for private schools in Roi Et Province. The research employed a research and development methodology and was conducted in four phases: Phase 1 involved studying the current and desired states of internal supervision from the perspectives of school administrators and teachers in private schools. Phase 2 focused on creating and developing the internal supervision model using professional learning communities. Phase 3 tested the implementation of the model. Finally, Phase 4 evaluated the model. The target group in Phase 1 consisted of 207 school administrators and teachers from private schools. In Phase 2, 12 experts who reviewed and certified the model. Phase 3 included the 207 school administrators and teachers, while Phase 4 involved 36 experts and stakeholders. Data collection methods included unstructured interviews, brainstorming meetings, structured and unstructured questionnaires, knowledge assessments, performance evaluations, and satisfaction surveys. Data analysis employed frequency counts, percentages, means, standard deviations, PNI, and paired t-tests.


The research findings indicated that: 1) Current state: Most schools lacked a clear internal supervision system, and supervisors often lacked knowledge and acceptance. Desired state: Administrators and teachers sought a clear, collaborative supervision model. 2) The internal supervision model comprises five components: principles, objectives, a five-step supervision process (AISER Model: Analyzing, Informing, Supervising, Evaluating, Reporting), which includes six PLC elements, model evaluation, and success conditions. The developed model was rated highly for theoretical validity by experts. 3) Trial implementation results indicated the model's effectiveness (E1/E2 = 89.23/84.60), significantly increased participant knowledge, very high practical learning management results, excellent internal supervision outcomes using PLC, and very high satisfaction among administrators, teachers, and students. 4) Model evaluation showed overall high ratings for its accuracy, appropriateness, feasibility, and usefulness.

References

กรองทอง จิรเดชากุล. (2560). นวัตกรรมการศึกษา ชุดคู่มือการนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ธารอักษร.

กิติมา ปรีดีติลก. (2543). การบริหารและการนิเทศการศึกษาเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : อักษรพิพัฒน์.

เก็จกนก เอื้อวงศ์. (2565). การนิเทศในสถานศึกษา. สืบค้นเมื่อ 1 เมษายน 2565. จาก https:// mystou.files.wordpress.com/2012/02/23503-8-t.pdf

เกรียงศักดิ์ สังข์ชัย. (2557). การพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอนครูวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีแววความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.

จารุวรรณ์ ชนะพันธ์. (2561). การพัฒนาแนวทางการนิเทศภายในแบบชี้แนะสะท้อนคิดสำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26. การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์ : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

พงษ์ศักดิ์ ทองไชย. (2558). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในของสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

พนิดา จารย์อุปการะ. (2558). รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการโค้ชของครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : จัดพิมพ์โดยมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา. วารสารข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา. 30(เมษายน-พฤษภาคม 2563). 30-32.

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด. (2566). รายงานผลการนิเทศของสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดร้อยเอ็ด. ร้อยเอ็ด : สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด.

โสภณ ทองจิตร. (2554). การปฏิบัติงานตามกระบวนการนิเทศการศึกษาภายในของผู้นิเทศการศึกษาในโรงเรียนเครือข่ายบางกุ้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.

DuFour, DuFour & Eaker. (2006). Professional Learning Community at WorkTM Plan Book. Printed in the United States of America : Solution Tree Press.
Published
2025-07-08
How to Cite
สังคะพันธ์, สุทัศน์. การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สำหรับโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารการบริหารการศึกษา มมร.วิทยาเขตร้อยเอ็ด, [S.l.], v. 5, n. 2, p. 151-164, july 2025. ISSN 2730-4132. Available at: <http://ojs.mbu.ac.th/index.php/RJGE/article/view/2774>. Date accessed: 23 aug. 2025.